วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ภูทับเบิก

      







         ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90กิโลเมตร ภูทับเบิก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์  

 
      1.ชมไร่กะหล่ำยักษ์
ที่ยอดภูทับเบิกจะมีไร่กระหล่ำปลีเต็มไปหมดทุกภูเขา เราสามารถ เดินไปดูเก็บกระหล่ำปลี ซึ่งก็เป็นชาวเขาม้งจะ ขอซื้อมาทานก็ได้ ราคาแสนถูก และสดเหนือคำบรรยายครับ  และอย่าลืมขับรถไปเที่ยวในเส้นทางไปหมูบ้าน ที่ อยู่ห่างจากยอดทับเบิก 5 กิโลเมตร เส้นทางสายนี้นับว่า วิวสวยมาก มองไปทางซ้ายก็กระหล่ำปลีขวา กระหล่ำปลี เป็นภูเขากระหล่ำปลี เหนือยอดกระหล่ำปีเป็นปุยหมอกจางๆ สวยมาก ***สำคัญมากหากใครต้องการไปดูกะหล่ำยักษ์ที่ภูทับเบิก ชาวบ้านจะปลูกกันช่วงนี้
***ช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝนก็จะได้บรรยากาศแบบอลังการด้วยทะเลหมอกจากไอฝน ช่วงเดือน พ.ย.ในหน้าหนาวซึ่งจะเป็นช่วงที่สวยงามที่สุด
 
 
   
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2.ชมทะเลหมอกภูทับเบิกภูทับเบิกยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามและอลังการอีกแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะหากมาในช่วงหน้าฝนประมาณ เดือนก.ค.- ต.ค.มักจะพบเห็น ทะเลหมอกได้ง่ายกว่าหน้าหนาว
 


การเดินทาง 
1.รถยนต์ส่วนตัว- เส้นทาง จากกรุงเทพฯ ( ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ) ใช้ถนนพหลโยธิน ( ทางหลวงหมายเลข 1 ) มุ่งหน้าสู่จังหวัด สระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร จะถึงตัวเมืองสระบุรี จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดลพบุรี ประมาณ 16กิโลเมตร สู่ภูทับเบิก จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสัก ตรงไป ตามทาง หลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตามทางหลวง 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจาก ตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกจะสูงชันและ คดเคี้ยว มาก รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง
- อีกเส้นทางหนึ่งใช้เส้นทางด้านอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเลยที่ทำการ อุทยานฯ มาประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิกหากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่ จะลงไปยัง อำเภอหล่มเก่า

2.รถประจำทาง
การเดินทางมายังภูทับเบิกหากไม่มีรถยนต์มาเอง ต้องนั่งรถโดยสารมาลงที่หล่มสัก การเดินทางมาหล่มสัก หลังจากนั้น เหมาสองแถวที่อยู่บริเวณหล่มสักเพื่อขึ้นสู่ภูทับเิบิก อัตราค่าจ้างประมาณ 1,200 บาท หรือแล้วแต่ตกลงเบอร์รถสองแถว โทร 086 119 1092


 

ปาย


         ปายในอดีตนั้น เป็นเพียงจุดแวะพักของนักเดินทางที่จะขึ้นไปยังเมืองแม่ฮ่องสอน ความที่ปายนั้นอยู่บนที่สูงและล้อมกรอบตัวเองอยู่ในหุบเขา ทำให้ที่นี่อากาศดีตลอดทั้งปี เปรียบได้กับหลังคาของแม่ฮ่องสอน หรือที่ถูกขนานนามว่า "เมืองแห่งหมอกสามฤดู"

        ปาย คือชนบทเล็กๆ ที่ไม่มีกิจกรรมท่องเที่ยวอะไรเป็นที่หวือหวามากนัก แต่ก็เป็นเมืองที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง วันๆ หนึ่งในปาย ก็คือวันที่ขี้เกียจได้ทั้งวันของใครหลายๆ คน การนั่งจิบกาแฟไป อ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว หลายคนยังได้เลือกที่จะมาตั้งถิ่นฐานและใช้ชีวิตอยู่ที่ปาย เหตุผลเพราะที่นี่ไม่มีความวุ่นวาย ไม่ต้องดิ้นรน และชาวบ้านมีอัธยาศัยดีงาม ด้วยความมีสเน่ห์เฉพาะตัว ทำให้เมืองปายกลับกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทางท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างรวดเร็ว

เที่ยวปาย



ถนนคนเดิน


แหล่งเดินช้อปปิ้งสุดฮิปในบริเวณย่านเมืองเก่าที่ยังคงเป็นห้องแถวและเรือนไม้อายุเก่าแก่ ตลอดแนวสองข้างทางของถนนชัยสงคราม และถนนรังสิยานนท์ ในตัวเมืองปาย ของขายที่นี่มีความหลากหลาย ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับเก๋ๆ ของที่ระลึก(ที่เต็มไปด้วย โลโก้ ปาย) ร้านโปสการ์ด สินค้าพื้นเมือง งานศิลปะ งานฝีมือแฮนด์เมด ทั้งยังมี อาหารและขนมพื้นเมืองแบบดั้งเดิมต่างๆ ให้แวะชิมตลอดข้างทาง(เดินสุดถนนเมื่อไหร่ก็อิ่มกันพอดี) โดยช่วงเวลาเย็นๆ จนถึงช่วงดึกจะเป็นช่วงเวลาที่มีสีสันเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเป็นช่วงเวลาร้านค้าต่างๆ เปิดขายของกันอย่างเต็มที่ รวมถึงร้านดนตรีแนว เรคเก้ อินดี้ ที่เปิดบรรเลงสดในร้านข้างทาง



วัดน้ำฮู

จากตัวเมืองปาย ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 2 กิโลเมตร ก่อนถึงชุมชนจีนยูนนานบ้านสันติชล เป็นที่ประดิษฐานของพระอุ่นเมือง พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย อายุราวสมัยอยุธยา พระพุทธรูปองค์นี้มีพระเศียรกลวง ส่วนบนเปิดออกได้ และจะพบน้ำบริสุทธิอยู่ข้างใน ซึ่งซึมออกมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเพื่อขอนำ้ในพระเศียรนี้ไปสักการะ ตามตำนานยังเล่าว่า พระอุ่นเมืององค์นี้ สร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระองค์ยังได้สร้างพระเจดีย์ธาตุที่อยู่หลังพระวิหารแห่งนี้ เพื่อใช้เป็นที่บรรจุพระธาตุเกษาของพระพี่นางสุพรรณกัลยา


ชุมชนจีนยูนนาน บ้านสันติชล

อยู่ห่างจากตัวเมืองปายประมาณ 4 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตก ผ่านบ้านน้ำฮู ที่นี่เป็นหมู่บ้านของชาวยูนนานซึ่งอพยพมาตั้งถิ่นฐานในไทยแต่เก่า ซึ่งยังคงรักษาวัฒนธรรมไว้ให้เห็น อาทิ บ้านที่สร้างจากดิน เครื่องแต่งกาย ภาษาพูด และอาหารจีนดั้งเดิมที่ควรแวะชิม



โป่งน้ำร้อนเมืองแปง


ออกจากปายมาทางทิศใต้ โดยใช้เส้นทางหมายเลข 1095(ปาย-แม่มาลัย) แล้วแยกเข้าสาย 1265 สู่บ้านเมืองแปง ใกล้กับหน่วยพิทักษ์รักษาป่าแม่ปิง ระยะทางโดยรวมประมาณ 35 กิโลเมตร โป่งน้ำร้อนเมืองแปง มีลักษณะเป็นบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ บริเวณที่เป็นโป่งจะมีนำ้ผุดขึ้นลักษณะคล้ายน้ำเดือด วัดอุณหภูมิได้สูงถึง 95 องศาเซลเซียส เรียกได้ว่าสามารถทำให้อาหารสุกได้เป็นอย่างดี จึงไม่สามารถลงแช่น้ำได้ ดังนั้น ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจึงนิยมมานั่งรับไออุ่นกันบริเวณริมโป่งน้ำร้อนแห่งนี้



ธารน้ำพุร้อนท่าปาย

จากเส้นทางหมายเลข 1095 ออกมาจากตัวอำเภอปายประมาณ 17 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังที่มีความเป็นธรรมชาติอย่างมาก เป็นโป่งที่น้ำร้อนผุดขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน มีอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส มองเห็นเป็นไออุ่นลอยปกคลุมอยู่บริเวณโป่ง บางจุดมีธารน้ำเย็นไหลเข้ามาผสม ทำให้อุณหภูมิพอเหมาะแก่การลงแช่บ่อน้ำแร่ธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ทางอุทยานยังได้จัดห้องอาบน้ำแร่ที่มาจากน้ำพุร้อนแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวได้อาบกันอีกด้วย



น้ำตกหมอแปง


ออกจากชุมชนจีนยูนนานมาราว 3 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกหมอแปงซึ่งอยู่ในเขตของบ้านหมอแปง ตัวน้ำ
ตกมีสามชั้น แต่ละชั้นมีความสูงประมาณ 6 เมตร จัดเป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความชุ่มชื้นตลอดทั้งปี


เดินทางไปปาย








รถโดยสารประจำทาง รถตู้ไปปาย

รถโดยสารประจำทางไปปายนั้น มีบริการในจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอนเท่านั้น ซึ่งหากขึ้นที่เชียงใหม่จะสะดวกที่สุด เพราะระยะทางไปปายจะใกล้กว่า รถออกมากกว่า และมีให้เลือกมากกว่า สำหรับจุดขึ้นรถโดยสารไปปายหลักๆ จะอยู่ที่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงใหม่(อาเขต) ให้บริการโดย บริษัท เปรมประชาขนส่ง จำกัด ซึ่งมีรถคอยบริการอยู่ 3 ชนิด คือ รถโดยสารประจำทางพัดลม, รถมินิบัสปรับอากาศ และรถตู้ปรับอากาศ วิ่งออกสลับกันทุกครึ่งชั่งโมง เริ่มเที่ยวแรกตั้งแต่เวลา 6.30น. จนถึง 17.30น. ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง 6-8 ชั่งโมง

หรือใช้บริการของบริษัทท่องเที่ยวเมืองปายโดยตรง อย่างบริษัท อยาเซอร์วิส(Aya Service) ซึ่งมีรถตู้ปรับอากาศบริการไปรับถึงที่พัก ตามโรงแรมเกสเฮาส์ต่างๆ ของเมืองเชียงใหม่ สามารถจองที่นั่งโดยตรงกับทางบริษัทหรือผ่านทางโรงแรมเอง

ข้อมูลเพิ่มเติม: www.premprachatransport.com | www.ayaservice.com



ขับรถไปปาย

          ปายเป็นอำเภอที่อยู่ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน การขับรถจึงสามารถเริ่มต้นได้จากทั้งสองจังหวัด แต่จะสะดวกกว่าหากขับรถมาทางจังหวัดเชียงใหม่ เพราะทางจะดีกว่าและใกล้กว่า โดยรวมแล้วเป็นระยะทาง 136 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง
         การขับรถไปปายโดยเริ่มต้นออกมาจากตัวเมืองเชียงใหม่ ให้ขับไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) ผ่านอำเภอแม่ริม ก่อนถึงย่านตลาดแม่มาลัยจะเจอทางแยก ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1095 (แม่มาลัย-ปาย) ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งตรงสู่ปายต่อไป

เครื่องบินไปปาย
        เที่ยวบินไปปายนั้น เปิดให้บริการโดยสารการบิน SGA ในเครือบริษัท นกแอร์ จำกัด รับส่งผู้โดยสารจากท่าอากาศยานเชียงใหม่สู่สนามบินปาย ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ข้อดีของการเดินทางชนิดนี้ นอกเหนือจากช่วยประหยัดเวลาแล้ว ในระดับการบินตลอดเที่ยวบินที่ไม่สูงมากนัก ผู้โดยสารจะสามารถเพลินลมชมวิวทิวทัศน์เบื้องล่างในมุมมองเหนือท้องฟ้า ได้จากทางช่องหน้าต่างอีกด้วย


* เที่ยวบินนี้เปิดให้บริการระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2552 - 27 มีนาคม 2553
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.sga.co.th

เกร็ดน่ารู้ สนามบินปายนั้น เดิมทีเป็นรันเวย์เก่าที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และถูกเก็บรักษาไว้เพื่อใช้เป็นลานบินชั่วคราวสำหรับลำเลียงเสบียงอาหารของกองทัพ ซึ่งต่อมาได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นสนามบินสำหรับรองรับธุรกิจการท่องเที่ยว สนามบินปายมีรันเวย์ กว้าง 18 เมตร ยาว 710 เมตร และเทอร์มินอลขนาดเล็กเพื่อรองรับผู้โดยสาร


เพลินวาน

ทำไมต้องเพลินวาน

         หัวใจหลักในการดำเนินงานของเพลินวาน อยู่ที่การสนับสนุนให้คนในทุกๆพื้นที่ตั้งของเพลินวาน มีอาชีพ มีรายได้ และ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากการพัฒนาร่วมกัน เพื่อสร้างมูลค่าให้กับสินค้าหรือต้นทุนเดิมที่มีอยู่แล้วของคนพื้นถิ่น

            โดยเฉพาะวิถีชีวิตริมทางฟุตบาทที่ทุกวันนี้แทบจะไม่มีที่ทํากิน  รวมถึงธุรกิจโชว์ห่วยที่นับวันเริ่มจางหายไปในยุคปัจจุบัน เพลินวานเชื่อว่าหาบเร่แผงลอยเมื่อสมัยคุณทวด ณ วันนี้มีหลายเจ้าที่สามารถเลื่อนขั้นไปเป็นธุรกิจที่มียอดขายหลายร้อย หลายพันล้าน เพลินวาน จึงเลือกที่จะให้โอกาส ทั้งกับผู้ประกอบการ พ่อค้า-แม่ขาย หาบเร่ แผงลอย โชว์ห่วย  ได้เข้ามาจับจองเช่าพื้นที่ค้าขายภายในโครงการ  ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้แก่คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านเมื่อครั้งเก่า อันเป็นรากฐานของความเจริญทางด้านสังคมและการค้าในยุคปัจจุบัน ถึงแม้เพลินวาน จะต้องแบกรับต้นทุนในระดับสูง เนื่องเพราะที่แห่งนี้ไม่ได้ถูกมองเป็นเพียงแค่ร้านขายอาหาร ร้านขายของเล่น ร้านเสื้อผ้า หรือร้านขายไอศกรีมทั่วไป แต่เราเป็นเหมือน Live Museum พิพิธภัณฑ์มีชีวิต จึงต้องมีการสร้างบรรยากาศแวดล้อมและอารมณ์ร่วม ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ของร้านค้าทุกร้าน การออกแบบรถเข็นขายสินค้าและอาหารที่มีอยู่ภายในบริเวณ  สิ่งเหล่านี้คือ ความพยายามและความทุ่มเทที่คุณสามารถสัมผัสได้เมื่อมาถึงยัง...เพลินวาน
 
ที่ตั้งของเพลินวาน


สิ่งที่น่าสนในเกี่ยวกับเพลินวาน
          ช่วงนี้กระแสการท่องเที่ยวแบบย้อนยุคกำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็นตลาดเก่า บ้านเรือนโบราณ พิพิธภัณฑ์ของเก่าทั้งหลาย การได้ไปเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะได้กลับไปเรียนรู้ถึงวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าแต่เหมือนได้นำพาเรากลับไปสู่อดีตในวันวานทุกครั้งที่เห็นสิ่งเหล่านี้ทำให้เรายิ้มได้และย้อนนึกถึงความทรงจำในครั้งเยาว์วัยทุกครั้งไป เช่นเดียวกับ เพลินวาน สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งหัวหิน ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความรักและคิดถึงหัวหินในวันก่อน เพลินวาน จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์กลางจุดหมายการเดินทางแห่งใหม่ของคนหัวหินและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน  เพลินวาน คือ... “ศูนย์รวมความสุข สถานที่... หยุดเวลาในอดีตไว้ เพื่อเล่าขานเรื่อง ราวมากมายของวิถีหัวหินกาลก่อน ...สู่กาลปัจจุบัน”
            ลานอเนกประสงค์














            
ร้านขายกาแฟ  ร้านขายข้าวแกง
 















             ห้องเสื้อไฉไล

            ร้านขายของเล่นเพลินวาน


การเดินทางมาเพลินวาน

      รถยนต์ส่วนตัว   ได้ ๒ เส้นทาง
           1. สายธนบุรี - ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข ๓๕) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.เพชรเกษม(ทางหลวงหมายเลข ๔) ผ่านเพชรบุรี เข้าหัวหิน ใช้เวลาประมาณ ๒.๓๐ ชั่วโมง
           2.  สายพุทธมณฑล ผ่านนครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ใช้เวลาประมาณ ๓ ชั่วโมง

รถโดยสารประจำทางปรับอากาศ
     1.  รถโดยสารประจำทางปรับอากาศมี ๒ ประเภท คือ ชั้น ๑ และ ชั้น ๒ ออกเดินทางจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ กรุงเทพ ฯ-หัวหิน ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น ๓ ชั่วโมง โดยจะออกรถทุกๆ ๓๐ นาที ระหว่างเวลา ๐๕.๐๐ - ๒๒.๐๐ น.
      2. ส่วนสถานีเดินรถประจำทางในหัวหินอยู่บริเวณโรงแรมสิริเพชรเกษม บริเวณถนนสระสรง ใกล้ๆถนนเดชานุชิต โดยจะมีรถออกจากหัวหินทุกๆ ๔๐ นาที ระหว่างเวลา ๐๓.๐๐ - ๒๑.๐๐ น.
รถตู้   สามารถใช้บริการรถตู้ โดยเลือกขึ้นที่ท่ารถแถวถนนข้าวสาร และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

รถไฟ       จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีขบวนรถไฟสายใต้ผ่านหัวหิน ปราณบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ ทุกวัน
โทร. ๐๒ ๒๓๓ ๗๐๑๐ , ๐๒ ๒๓๓ ๗๐๒๐